3 เทคนิคเลือกงานบิ้วอิน – ฟิตอินผนังให้ปัง ให้บ้านสวยโดดเด่นถ่ายรูปมุมไหนก็สวย

 3 เทคนิคเลือกงานบิ้วอิน – ฟิตอินผนังให้ปัง ให้บ้านสวยโดดเด่นถ่ายรูปมุมไหนก็สวย

สมัยนี้ใคร ๆ ก็อยากได้บ้านหรือคอนโดที่สวย จะถ่ายรูปมุมไหนก็ดูดีลงโซเชียลได้ไม่อายใคร จะหาเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวมามิกซ์แอนด์แมตช์บางทียากเหลือเกิน แถมฟังก์ชันก็ไม่ตอบโจทย์ ใช้งานได้ไม่คุ้มค่า วันนี้ขอพาไปทำความรู้จักกับงานบิ้วอิน – ฟิตอินผนัง สิ่งที่จะตอบโจทย์คนรักบ้านทั้งเรื่องฟังก์ชันและดีไซน์ ที่สามารถออกแบบผสานทั้งสองสิ่งให้สวยงามใช้งานได้ดีอย่างลงตัว

ทำไมต้องเลือกใช้งานบิ้วอิน – ฟิตอินผนัง

*ภาพตัวอย่างแบบเพื่อการโฆษณา

งานบิ้วอิน – ฟิตอินผนังเป็นการออกแบบเฟอร์นิเจอร์หรือส่วนตกแต่งบ้าน ฝังเอาไว้บนผนังโดยจะไม่ย้ายเคลื่อนย้ายได้เหมือนกับเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว แต่จะดีไซน์ได้ว่าต้องการให้พื้นที่บริเวณนั้นกลายเป็นอะไร หรือต้องการให้มีฟังก์ชันในการใช้สอยอย่างไรบ้าง และสามารถทำได้ในหลายบริเวณ ทั้งผนังห้องนั่งเล่น ผนังกั้นห้องนอน ผนังครัวก็ได้เช่นกัน โดยตอบโจทย์คนรักบ้านหลายอย่าง

  • มีอายุการใช้งานยาวนาน เนื่องจากงานบิ้วอิน – ฟิตอินจะต้องใช้วัสดุที่เข้ากับตัวผนังได้ ซึ่งต้องออกแบบให้เชื่อมกับโครงสร้างของบ้านด้วย ทำให้มีความแข็งแรงคงทนเป็นอย่างมาก
  • ดีไซน์ให้ได้สไตล์ที่ต้องการ หลายครั้งที่ถูกใจฟังก์ชันเฟอร์นิเจอร์บางชิ้น แต่ดีไซน์ไม่เข้ากับของชิ้นอื่น ๆ หรือถ้าเจอชิ้นที่สไตล์เข้ากันแต่ฟังก์ชันไม่ตอบโจทย์ก็ยากอยู่ดี งานบิ้วอิน – ฟิตอินจะช่วยแก้ปัญหานั้น เพราะสามารถออกแบบให้ตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชันและดีไซน์เลย
  • ใช้สอยได้อย่างเต็มที่ ด้วยเป็นงานบิ้วอิน – ฟิตอินที่จะดีไซน์ให้เหมาะกับพื้นที่นั้น ๆ จึงเลือกทุกอย่างได้เต็มที่รวมถึงการใช้ประโยชน์จากบริเวณนั้นด้วย สามารถให้เป็นตู้เก็บของ ชั้นเก็บเสื้อผ้า Walk in Closet ผนังกั้นห้องของโชว์ของตกแต่ง หรืออย่างอื่นก็ได้ตามต้องการ

3 เทคนิคเลือกงานบิ้วอิน – ฟิตอินผนังให้ปัง

*ภาพตัวอย่างแบบเพื่อการโฆษณา

1. เลือกวัสดุให้ตอบโจทย์การใช้งาน

เทคนิคแรกที่ถือว่าสำคัญมากในการทำงานบิ้วอิน – ฟิตอินก็คือการเลือกใช้วัสดุที่เข้ากับพื้นที่ที่จะใช้งาน อย่างการบิ้วอิน – ฟิตอินผนังภายใน ส่วนใหญ่ก็จะใช้ไม้ที่มีความสวยงามเป็นหลัก เพื่อให้สวยและเข้ากับการตกแต่งภายในส่วนอื่น ๆ ด้วย แต่ที่สำคัญก็ยังต้องคำนึงถึงความแข็งแรงและทนทานของเนื้อไม้ไม่แพ้กัน

  • Particle Board หรือไม้พาร์ติเคิลบอร์ดที่เป็นไม้สำเร็จรูป เนื้อไม้จะมีความหยาบทำให้ไม่ทนต่อความชื้น อาจไม่เหมาะกับบริเวณห้องน้ำหรือครัว ที่ต้องเจอความชื้นอยู่ตลอดเวลา
  • Medium-Density Fiberboard หรือไม้ MDF ไม้ชนิดนี้สามารถทาหรือพ่นสีให้ได้สไตล์ที่ต้องการ เหมาะกับคนที่ต้องการความสวยงามเป็นพิเศษ 
  • High Moisture Resistance Board หรือไม้ HMR ที่คุณสมบัติพิเศษคือทนทานต่อความชื้น เพราะได้เติมสารกันความชื้นเข้าไป ทำให้กันน้ำได้ด้วย นอกจากนี้เนื้อไม้ยังแน่นละเอียดไม่เป็นขุย ๆ

2. เลือกฟังก์ชันให้ครอบคลุมและใช้สอยได้อย่างเต็มที่

อย่างที่กล่าวไปตั้งแต่ต้นว่างานบิ้วอิน – ฟิตอินผนังเป็นการสร้างเฟอร์นิเจอร์ขึ้นมาให้ติดกับผนัง ดังนั้นต้องออกแบบโดยคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก ยิ่งสามารถทำให้ใช้งานได้ครอบคลุมเท่าไหร่ ก็ถือว่ายิ่งคุ้มค่ามากเท่านั้น เพราะส่วนใหญ่แล้วเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวมักไม่มีขนาดสูงที่พอดีกับผนัง แต่เฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน – ฟิตอินทำให้ โดยเฉพาะพวกตู้เก็บของต่าง ๆ ที่ออกแบบให้สวยเนียนแต่เปิดออกมาก็เก็บของได้อย่างมากมาย จัดการพื้นที่ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด

3. เลือกอินทีเรียที่มีประสบการณ์

เทคนิคสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้กับข้ออื่น ๆ ก็คือการเลือกบริการบิ้วอิน – ฟิตอินแบบครบวงจรจากอินทีเรียหรือบริษัทที่เชี่ยวชาญในการออกแบบตกแต่งภายใน รวมถึงการทำบิ้วอิน – ฟิตอินด้วย เพื่อให้ได้รับบริการที่คุ้มค่า ไม่ต้องกังวลเรื่องวัสดุ อุปกรณ์ การออกแบบ หรือแม้แต่ปัญหาช่างทิ้งงงาน ถ้ามีอินทีเรียที่มีประสบการณ์ก็จะช่วยให้มั่นใจได้อีกขั้นว่าจะได้บ้านที่สวยตอบโจทย์และตรงใจอย่างแน่นอน

*ภาพตัวอย่างแบบเพื่อการโฆษณา

มาเนรมิตบ้านให้สวยปังด้วยงานบิ้วอิน – ฟิตอินผนังสวย ๆ จาก dooDeco ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการออกแบบที่มีประสบการณ์ตกแต่งภายในและงานบิ้วอิน – ฟิตอินแบบครบวงจร สามารถออกแบบให้เป็นภาพแบบ 3 มิติ พร้อมมีใบเสนอราคาที่ละเอียดให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น หรือหากต้องการหาทีมรับเหมา ทำบิ้วอิน – ฟิตอินบ้าน คอนโด หรือออฟฟิศก็ตอบโจทย์ทุกความต้องการให้สวยดูดีได้อย่างแน่นอน

Share