“ดีป้า” ดัน SMEs สู้พิษโควิด-19 ส่งสุดยอดสินค้าไทย อวดโฉมในเวทีระดับโลก “เวิลด์เอ็กซ์โป 2020 ดูไบ”

 “ดีป้า” ดัน SMEs สู้พิษโควิด-19 ส่งสุดยอดสินค้าไทย อวดโฉมในเวทีระดับโลก “เวิลด์เอ็กซ์โป 2020 ดูไบ”

“ดีป้า” ดัน SMEs สู้พิษโควิด-19 ส่งสุดยอดสินค้าไทย อวดโฉมในเวทีระดับโลก “เวิลด์เอ็กซ์โป 2020 ดูไบ”

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล คัดสุดยอดสินค้าดี สินค้าเด่นของไทย ร่วมจัดแสดงที่อาคารแสดงประเทศไทยในงาน “เวิลด์เอ็กซ์โป 2020 ดูไบ” ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 – 31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อแสดงศักยภาพของสินค้าไทยสู่สายตาชาวโลก พร้อมเพิ่มโอกาสในการส่งออกสินค้าสู่ตลาดตะวันออกกลางและประเทศอื่น ๆ แก่ผู้ประกอบการไทย

ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า
ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า

ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา ดีป้า ริเริ่มโครงการคัดเลือกสุดยอดสินค้าดี สินค้าเด่นของไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs มีโอกาสเปิดตลาดใหม่ในแถบตะวันออกกลาง เพราะผู้เข้าชมงานกว่าร้อยละ 74 เป็นกลุ่มผู้ซื้อหลักของตลาดดูไบและตะวันออกกลาง โดยจะนำสินค้าไปจำหน่ายและแจกเพื่อประชาสัมพันธ์ให้กับผู้เข้าชมอาคารแสดงประเทศไทยในงาน “เวิลด์เอ็กซ์โป 2020 ดูไบ” ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพและได้รับมาตรฐานการส่งออกจำนวนกว่า 200 ราย

“ปัจจุบัน เราได้ทำการคัดเลือกสุดยอดสินค้าไทยที่ผ่านหลักเกณฑ์และมาตรฐานด้านความโดดเด่น มีเอกลักษณ์ เป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย และมีเอกสารรับรองสำหรับการส่งออกครบถ้วนแล้ว จำนวน 250 รายการ โดยแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ออกเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. กลุ่มผลิตภัณฑ์หัตถกรรมฝีมือคนไทย 2. กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ สปา และเครื่องสำอาง 3. กลุ่มผลิตภัณฑ์ของที่ระลึก 4. กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องประดับ และ 5. กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานและเครื่องดื่ม” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว

สำหรับสุดยอดสินค้าจากโครงการสินค้าดี สินค้าเด่นของไทยทั้งหมด รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวงจะจัดจำหน่ายบริเวณชั้นล่างของอาคารแสดงประเทศไทย ณ ร้านของที่ระลึก “Thai Souk” โดย Souk ในภาษาอารบิกแปลว่า “ตลาด” และออกเสียงคล้าย “ความสุข” ในภาษาไทย ดังนั้น Thai Souk จึงหมายความถึงตลาดที่ส่งมอบความสุขด้วย 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์อันเลื่องชื่อของประเทศไทย โดย ดีป้า ได้คัดเลือก บริษัท เวก้า อินเตอร์เทรด แอนด์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด บริษัทของคนไทยที่มีความเชี่ยวชาญและชำนาญด้านการจัดแสดงสินค้าในประเทศแถบตะวันออกกลางบริหารจัดการพื้นที่ดังกล่าว

นายอัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เวก้า อินเตอร์เทรด แอนด์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด
นายอัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เวก้า อินเตอร์เทรด แอนด์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด

ด้าน นายอัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เวก้า อินเตอร์เทรด แอนด์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด ในฐานะรองประธานสภาธุรกิจไทยในดูไบและรัฐตอนเหนือของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กล่าวว่า การเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอาคารแสดงประเทศไทยในครั้งนี้ถือเป็นความภาคภูมิใจที่ได้ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญในนามประเทศไทย และยังเป็นโอกาสอันดีที่จะได้นำเสนอสินค้าและบริการของผู้ประกอบการไทยในเวทีระดับโลก โดยมีทั้งสินค้าที่เป็นที่นิยมในกลุ่มลูกค้าตะวันออกกลางอยู่แล้ว อาทิ อัญมณีเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์ไม้ อาหารทะเลแปรรูป รวมถึงสินค้าใหม่ที่มีโอกาสสร้างตลาดในดูไบและตะวันออกกลาง เช่น งานหัตถกรรมฝีมือคนไทย สินค้าเพื่อสุขภาพ สปาและเครื่องสำอาง สินค้าของที่ระลึก และอาหารพร้อมรับประทานและเครื่องดื่ม

“สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นประเทศที่มีความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ มีเมืองดูไบเป็นศูนย์กลางธุรกิจและการค้า สามารถเชื่อมต่อการเดินทางทั้งทางบกและอากาศ ต่อเนื่องถึงทวีปแอฟริกาและยุโรป จากการที่ดูไบได้รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดงาน เวิลด์เอ็กซ์โป 2020 ดูไบ ในครั้งนี้ ส่งผลให้เกิดการก่อสร้างสาธารณูปโภค และเกิดการจ้างงานจำนวนมาก โดยสินค้าและบริการของประเทศไทยยังคงได้รับความนิยมและชื่นชอบจากชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพราะคุณภาพดี ราคาไม่แพง อีกทั้งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าสุขภาพเป็นจำนวนมาก จึงถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะใช้งานนี้แสดงศักยภาพสินค้าไทยที่มีคุณภาพและมาตรฐานเทียบเท่าสากล ซึ่งมั่นใจว่า สินค้าของไทยจะได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนมาก” นายอัครวุฒิ กล่าว

งานเวิลด์เอ็กซ์โป 2020 ดูไบ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 – 31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ภายใต้แนวคิด “เชื่อมความคิด สร้างอนาคต: CONNECTING MINDS, CREATING THE FUTURE” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นต่อไป และส่งสัญญาณต่อให้ทุกคนร่วมใจกันพัฒนาโลก ภายใต้ 3 หัวข้อย่อย ได้แก่ 1. โอกาส (Opportunity) 2.การขับเคลื่อน (Mobility) และ 3.ความยั่งยืน (Sustainability)

สามารถติดตามความเคลื่อนไหวและร่วมภูมิใจกับอาคารแสดงประเทศไทยที่ Facebook, Instagram และ YouTube: Expo2020DubaiThailand หรือ https://expo2020dubaithailand.com

Share