เปิดมุมมองผู้บริหาร ETDA: Digital ID กับก้าวต่อไปของเศรษฐกิจดิจิทัล จากแนวคิดสู่การปฏิบัติ: การปลดล็อก Digital ID เพื่ออนาคตของประเทศไทย

เปิดมุมมองผู้บริหาร ETDA: Digital ID กับก้าวต่อไปของเศรษฐกิจดิจิทัล จากแนวคิดสู่การปฏิบัติ: การปลดล็อก Digital ID เพื่ออนาคตของประเทศไทย
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจดิจิทัล สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) กำลังเดินหน้าปลดล็อกศักยภาพของ Digital ID เพื่อนำประเทศเข้าสู่ยุคของการทำธุรกรรมที่ปลอดภัย ไร้รอยต่อ และเข้าถึงได้ทุกภาคส่วน ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA เผยถึงมุมมองเชิงกลยุทธ์ และความท้าทายที่องค์กรกำลังเผชิญ พร้อมกับการเปิดตัวโครงการ “ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID” เพื่อเร่งสร้างโซลูชันที่ตอบโจทย์ทั้ง นิติบุคคลและคนต่างด้าว ซึ่งเป็นกลุ่มสำคัญต่อเศรษฐกิจดิจิทัลไทย
Digital ID: ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่คือโครงสร้างพื้นฐาน
“Digital ID เป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย แต่การนำไปใช้จริง ยังมีข้อจำกัดอยู่หลายด้าน โดยเฉพาะในกลุ่มนิติบุคคลที่ต้องการระบบยืนยันตัวตนที่มีความน่าเชื่อถือ และคนต่างด้าวที่ยังขาดมาตรฐานรองรับ ETDA จึงต้องเร่งผลักดันให้ Digital ID เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ทุกคนสามารถใช้ได้จริง”
ETDA ได้เดินหน้าพัฒนา Digital ID ระยะที่ 1 (2565-2567) ผ่านการเปิดตัว ThaID (ไทยดี) ของกรมการปกครอง และ Face Verification Service (FVS) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของธุรกรรมทางดิจิทัล ในระยะที่ 2 (2568-2570) เป้าหมายหลักคือ การทำให้ Digital ID มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับในระดับประเทศ รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นในการใช้งานในทุกภาคส่วน
“เราไม่ได้มอง Digital ID เป็นแค่โครงการหนึ่ง แต่คือ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ที่ต้องมีความมั่นคงและเข้าถึงได้ง่ายที่สุด เราต้องทำให้ Digital ID เป็นเครื่องมือที่ช่วยลดต้นทุน เพิ่มความรวดเร็ว และป้องกันการทุจริตในระบบเศรษฐกิจ” ดร.ชัยชนะกล่าว
ETDA Hackathon: ปลดล็อกความท้าทาย สร้างสรรค์โซลูชันเพื่ออนาคต
เพื่อแก้ไขข้อจำกัดของ Digital ID ในปัจจุบัน ETDA จึงเปิดตัวการแข่งขัน “ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID” ภายใต้แนวคิด “จุดประกายความคิด ปลดล็อคอนาคต Digital ID” ซึ่งถือเป็นเวทีสำคัญในการเฟ้นหาไอเดียและโซลูชันจากเหล่านักพัฒนา นักคิด และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี
“Hackathon ครั้งนี้ไม่ใช่แค่การแข่งขัน แต่คือโอกาสที่จะสร้างระบบ Digital ID ที่ตอบโจทย์ความเป็นจริง โดยเฉพาะใน 2 กลุ่มสำคัญ คือ นิติบุคคลที่ต้องการระบบทำธุรกรรมที่โปร่งใส และคนต่างด้าวที่ยังมีข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการดิจิทัล เราเชื่อว่าผู้เข้าแข่งขันจะสามารถนำเสนอแนวคิดใหม่ๆ ที่สามารถต่อยอดสู่การใช้งานจริงได้”
การแข่งขันแบ่งเป็น 2 โจทย์สำคัญ ได้แก่
- e-Juristic Person Transaction: โซลูชันที่ช่วยให้ธุรกรรมของนิติบุคคลเป็นไปอย่างปลอดภัยและไร้รอยต่อ
- Digital ID for Foreigners: โซลูชันที่ช่วยให้คนต่างด้าวสามารถเข้าถึงบริการในประเทศไทยได้สะดวกยิ่งขึ้น
ETDA เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคม 2568 และจะคัดเลือก 15 ทีมสุดท้ายในวันที่ 4 เมษายน 2568 เพื่อเข้าร่วม Workshops และ Mentoring Sessions กับผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital ID ก่อนเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในเดือนเมษายน 2568
สร้างมาตรฐานใหม่ให้ Digital ID ไทย พร้อมต่อยอดระดับโลก
โครงการ Hackathon ครั้งนี้ไม่ได้จบเพียงแค่การมอบรางวัล แต่เป็นการเปิดโอกาสให้นวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนาสามารถต่อยอดสู่การใช้งานจริง ทีมที่ได้รับรางวัลไม่เพียงแต่จะได้รับ เงินรางวัลรวมกว่า 360,000 บาท แต่ยังมีโอกาส นำเสนอผลงานบนเวที Techsauce Global Summit 2025 และได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนระดับ Venture Capital
“เราต้องการสร้าง Digital ID Ecosystem ที่แข็งแกร่ง และได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและระดับสากล เราเชื่อว่านี่คือ ก้าวสำคัญของประเทศไทยในการสร้างมาตรฐาน Digital ID ที่ใช้งานได้จริง และสามารถเป็นต้นแบบให้กับประเทศอื่นๆ ได้” ดร.ชัยชนะ กล่าว
ETDA ขอเชิญชวนนักพัฒนา นวัตกร และผู้ที่มีไอเดียมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ สมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่ www.etda.or.th หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่าน Facebook: ETDA Thailand
“Digital ID ไม่ใช่แค่โครงการด้านเทคโนโลยี แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างเต็มรูปแบบ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตนี้ไปกับ ETDA” ดร.ชัยชนะ กล่าวทิ้งท้าย