STI ย้ำเป้ารายได้ปี 63 แตะ 1,500 ล้านบาท !! เผยผนึกพันธมิตรใหม่ เสริมแกร่งในอนาคต

 STI ย้ำเป้ารายได้ปี 63 แตะ 1,500 ล้านบาท !! เผยผนึกพันธมิตรใหม่ เสริมแกร่งในอนาคต

STI ย้ำเป้ารายได้ปี 63 แตะ 1,500 ล้านบาท !! เผยผนึกพันธมิตรใหม่ เสริมแกร่งในอนาคต

สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ หรือ STI โชว์มุมมองการเติบโตอย่างมั่งคง ย้ำเป้าหมายใหม่ รายได้ปีนี้โต 100% หรือแตะ 1,500 ล้านบาท หลังควบรวม AEC หนุนผลงานโตกระโดด ส่วน Backlog คาดทะลุ 5,000 ล้านบาท พร้อมรับรู้รายได้ระยาวไปอีก 5 ปีจากนี้ แย้มแผนเจรจาพันธมิตรใหม่เสริมทัพ สะท้อนความสำเร็จในการลงทุนและการบริหารความเสี่ยงอย่างดีเยี่ยม

นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI เปิดเผยถึง ภาพรวมธุรกิจปีนี้คาดเป็นไปตามเป้าหมาย เติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากความสำเร็จในการบริหารจัดการภายใน และการขยายธุรกิจ สยายปีกในฐานะผู้นำในธุรกิจที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้างครบวงจร ด้วยมาตรฐานและการให้บริการที่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับต่างประเทศ (International standard)

นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI

มุมมองภาพรวมงานก่อสร้างในประเทศ แม้ในช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัว แต่ตอนนี้เริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ส่วนของงานภาคเอกชนในโครงการขนาดใหญ่ยังเดินหน้า และเป็นโอกาสในการขยายงาน เนื่องจากต้นทุนในการก่อสร้างมีราคาลดลง ในส่วนของงานภาครัฐบาลสำหรับโครงการที่มีการก่อตั้งงบประมาณและอนุมัติงบประมาณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็มีการเดินหน้าการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง เป็นโอกาสให้กลุ่ม STI เข้าไปบริหารและควบคุมงานก่อนสร้างได้ เนื่องจากฐานลูกค้าของบริษัทฯ เป็นภาคเอกชนรายใหญ่ รวมถึงงานโครงสร้างพื้นฐาน

อย่างไรก็ดี ในด้านการควบคุมความเสี่ยง บริษัทฯ มองว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้ เนื่องจาก STI วางแผนรับมือในเรื่องของเศรษฐกิจถดถอยตั้งแต่ 2-3 ปีที่แล้ว ประกอบกับ สถานการณ์โควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลกระทบกับ STI ในวงจำกัด ด้วยความเชี่ยวชาญของทีมผู้บริหารและพนักงาน ในการขับเคลื่อนและส่งมอบงานตามเป้าหมายที่วางไว้ รวมทั้ง วางแผนการเติบโตอย่างยั่งยืน รุกขยายไปยังงานภาครัฐ จึงเข้าไปลงทุนในบริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด (AEC) เข้ามาเป็นบริษัทย่อย (STI ถือหุ้นอยู่ 63.75%) ซึ่งดีลแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2563 ที่ผ่านมา

ภายหลังจากการควบรวม AEC สนับสนุนพื้นฐานธุรกิจเปลี่ยน และเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ภาพรวมรายได้ปีนี้มีโอกาสเติบโตขึ้นเป็นเท่าตัวจากปีก่อนที่ทำได้ 727.28 ล้านบาท หรือแตะระดับ 1,500 ล้านบาท มีมูลค่างานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) เพิ่มขึ้นอยู่ที่ราว 4,600 ล้านบาท และมีงานรอเซ็นสัญญาอีกประมาณ 5 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2568

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังตั้งเป้าหมาย Backlog ในช่วงสิ้นปีนี้แตะระดับ 5,000 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทย่อย AEC มีความเชี่ยวชาญด้านงานโครงสร้างพื้นฐานและงานสาธารณูปโภค ขณะที่ STI มีความเชี่ยวชาญในงานอาคาร และมีความเชี่ยวชาญในการบริหารโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนรายได้ให้เติบโตตามเป้าหมาย โดยปัจจุบันทั้ง 2 บริษัทมีโครงการในมือรวมประมาณ 150 โครงการ และบุคลากรรวมกันประมาณ 1,500 คน เสริมศักยภาพธุรกิจ และการประหยัดต้นทุนในหลายๆ ส่วน

อย่างไรก็ดี STI นำเงินที่ได้จากการระดมทุนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในช่วงปลายปี 2561 ส่วนหนึ่งนำมาใช้ในการควบรวมกับ AEC ตามแผนขยายกิจการ และยังเหลือเงินอีกส่วนหนึ่งราว 50 ล้านบาท เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับลงทุนในบริษัทที่มีความคล้ายคลึงกัน เพื่อเสริมสร้างในด้านบุคลากร และศักยภาพความมั่นคงในการรับรู้รายได้มากขึ้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเจรจาอยู่ 2 บริษัท ซึ่งก็ถือว่าเป็นบริษัทขนาดกลาง ไม่ได้ใหญ่มาก แต่หากดีลมีการตกลงสำเร็จลุล่วง ก็จะส่งผลให้การรับรู้รายได้ของ STI เพิ่มขึ้น รวมถึง บุคลากรที่ทรงคุณค่า และมีความรู้ความสามารถเข้ามาเสริมทัพงานในส่วนของ STI ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งขึ้น

Share