วางแผนลงทุนเพื่อให้มีเงินใช้เพียงพอหลังเกษียณ กับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ แบบสมดุลตามอายุ (Principal Target Date Fund) และแบบสมดุลตามความเสี่ยง (Target Risk)

 วางแผนลงทุนเพื่อให้มีเงินใช้เพียงพอหลังเกษียณ กับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ แบบสมดุลตามอายุ (Principal Target Date Fund)  และแบบสมดุลตามความเสี่ยง (Target Risk)

วางแผนลงทุนเพื่อให้มีเงินใช้เพียงพอหลังเกษียณ กับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ แบบสมดุลตามอายุ (Principal Target Date Fund) และแบบสมดุลตามความเสี่ยง (Target Risk)

ท่านทราบหรือไม่ว่า…ประชากรไทยมีอายุยืนยาวมากขึ้นทุกๆปี มีแนวโน้มความเสี่ยงจากการมีเงินไม่พอใช้หลังเกษียณ (Shortfall Risk) เพิ่มขึ้น และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอาจไม่สามารถเอาชนะอัตราเงินเฟ้อ (Inflation Risk) ในอนาคต การเตรียมตัวให้พร้อมกับการวางแผนการลงทุนเพื่อให้มีเงินใช้เพียงพอหลังเกษียณจึงมีความสำคัญ

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด นำเสนอนวัตกรรมของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่จะช่วยให้การวางแผนการเงินของท่านทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น กับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ แบบสมดุลตามอายุ” (Principal Target Date Retirement Fund) ซึ่งออกแบบมาสำหรับคนทำงานประจำที่ไม่ค่อยมีเวลาและประสบการณ์ด้านการลงทุนมากนัก ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ง่ายและจะมีผู้จัดการกองทุนคอยจัดพอร์ตและปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมตามช่วงอายุ โดยจะคลอบคลุมตั้งแต่วัยเริ่มต้นทำงานไปจนถึงวัยเกษียณอายุ และ “แบบสมดุลตามความเสี่ยง” (Target Risk) ภายใต้กองทุนเดียวกัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการลงทุนพอสมควร ด้วยแผน Do-it-yourself (DIY) ที่ท่านจะสามารถเลือกนโยบายการลงทุนที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่รับได้ และเลือกสินทรัพย์ที่ต้องการจะลงทุนได้ด้วยตัวเอง

 

เลือกแผนการลงทุนที่เหมาะกับตัวเอง

สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่มีผลต่อการงอกเงยของเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ก็คือ การเลือกแผนการลงทุน ในช่วงเริ่มต้นทำงานหลายคนมักจะเลือกแผนการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ เพราะยังไม่ค่อยมีความชำนาญในเรื่องการลงทุน แต่พออายุมากขึ้นก็เริ่มลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วสิ่งที่ควรเป็นคือ เมื่ออายุยังน้อยควรเริ่มต้นลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงเพื่อหวังผลตอบแทนที่สูงในระยะยาว เนื่องจากยังมีเวลาให้เงินเติบโตได้อีกนาน แต่เมื่ออายุมากขึ้นระยะเวลาที่เหลือในการลงทุนเริ่มน้อยลง จึงควรจะค่อยๆ ลดความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุนด้วยการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงมากขึ้น

“กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พรินซิเพิล-สมดุลตามอายุ (Principal Target Date Retirement Fund)” จึงออกแบบมาสำหรับคนทำงานประจำที่ไม่ค่อยมีเวลาและประสบการณ์ด้านการลงทุนมากนักโดยได้แบ่งนโยบายการลงทุนที่เหมาะกับกลุ่มคน ตั้งแต่เริ่มต้นทำงานไปจนถึงวัยเกษียณอายุ มีการปรับพอร์ตแบบอัตโนมัติตามอายุ และเมื่อมีอายุเพิ่มขึ้นก็จะลดสัดส่วนในการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นลง และมาลงทุนในตราสารหนี้เพิ่มขึ้น ก็จะช่วยทำให้สมาชิกกองทุนมีระดับความเสี่ยงการลงทุนที่เหมาะสมตลอดอายุการลงทุน

ในการลงทุนนั้นสมาชิกสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่กำหนดปีที่ต้องการเกษียณอายุ ผู้จัดการกองทุนก็จะจัดสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมตามช่วงวัยของสมาชิกแบบอัตโนมัติอย่างต่อเนื่อง คอยปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสภาวะตลาด และพร้อมปรับพอร์ตการลงทุนด้วยเทคนิค Rebalancing Portfolio เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสมาชิกได้ลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมกับตัวเอง ทำให้สมาชิกไม่ต้องมาคอยปวดหัวจัดพอร์ตการลงทุนเอง

และมีนโยบายการลงทุนแบบ TD_P สำหรับสมาชิกที่เกษียณอายุแล้ว ซึ่งจะมีสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำอย่างตราสารหนี้ให้สูงขึ้น เพื่อเน้นการรักษาเงินต้น ซึ่งสมาชิกสามารถทยอยถอนเงินลงทุนเป็นงวดๆ ออกจากกองทุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้

บริษัทจัดการดูแลสมาชิกโดย

  • คัดเลือกประเภทของสินทรัพย์ (Asset Class Selection) ให้เหมาะสมกับคนไทย ด้วยการคัดเลือกสินทรัพย์หลายประเภทผสมในพอร์ตการลงทุน เพื่อลดความเสี่ยงและสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีให้กับพอร์ตการลงทุน
    •    ปรับพอร์ตการลงทุนระยะยาว (Strategic Asset Allocation) ปรับลดความเสี่ยงของพอร์ตให้อัตโนมัติ ด้วยการสร้างกรอบการลงทุนปรับให้สมดุลตามอายุ ตาม Glide Path เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนการลงทุนที่สูงในวัยเริ่มทำงาน และทยอยปรับลดความเสี่ยงเมื่อใกล้วัยเกษียณอายุ
  •  ปรับกลยุทธ์การลงทุนตามสภาวะตลาด (Tactical Asset Allocation) โดยผู้จัดการกองทุนปรับเพิ่มหรือลดน้ำหนักการลงทุนในแต่ละกลุ่มหลักทรัพย์ภายในกรอบสัดส่วนการลงทุนที่กำหนด เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น โดยการคาดการณ์ภาวะตลาดและผลตอบแทนการลงทุนในระยะสั้น (12-18 เดือน)
  •  สร้างวินัยการลงทุนด้วยเทคนิค Rebalancing Portfolio โดยการปรับสัดส่วนการลงทุนให้สมาชิกอย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้สมาชิกมีความเสี่ยงมากกว่าที่ยอมรับได้

 

นอกจากนั้น บลจ. พรินซิเพิล จำกัด ยังมีรูปแบบ “สมดุลตามความเสี่ยง (Target Risk)” ภายใต้กองทุนเดียวกัน ซึ่งสมาชิกสามารถเลือกนโยบายการลงทุนที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่สมาชิกรับได้ มีแผน Do-it-yourself (DIY) ที่ให้สมาชิกผสมสัดส่วน และเลือกสินทรัพย์ที่ต้องการจะลงทุนได้ด้วยตัวเอง ซึ่งนโยบาย Target Risk นี้ จะเหมาะสมกับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการลงทุนพอสมควร และมีเวลาติดตามภาวะเศรษฐกิจอย่างสม่ำเสมอ

 

Target Risk มีทั้งสิ้น 8 กองทุนย่อยที่แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มการลงทุน คือ

  1. กลุ่มตราสารหนี้ ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่ง ตราสารหนี้ระยะสั้น (TR_iDAILY) อายุเฉลี่ยประมาณ 3 เดือน ตราสารหนี้ (TR_iFIXED) อายุเฉลี่ยประมาณ 2 ปี ที่เสนอขายทั้งในประเทศและ/หรือต่างประเทศ ออกโดยภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน
  2. กลุ่มตราสารทุนในประเทศ ลงทุนใน หุ้นไทย (TR_TEQ) ตราสารทุนที่มีปัจจัยพื้นฐานดี หรือเกี่ยวข้องกับธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ หุ้นไทย (TR_TDIF) ตราสารแห่งทุนหรือหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีแนวโน้มการเติบโตในทางธุรกิจ หรือบริษัทที่มีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่ดี หุ้นไทย (TR_SET50) มีลักษณะเป็นการบริหารกองทุนเชิงรับ (Passive Management) เพื่อสร้างผลตอบแทนให้เป็นไปตามการเคลื่อนไหวของดัชนี SET50
  3. กลุ่มตราสารทุนต่างประเทศ คือ ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน หุ้นต่างประเทศ (TR_GEQ)และ/หรือ กองทุน Exchange Traded Fund (ETF) ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก หรือในบางช่วงเวลาอาจเน้นลงทุนเฉพาะประเทศ ขึ้นอยู่กับสภาวะการลงทุนในแต่ละช่วงเวลาตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน และหุ้นต่างประเทศ (TR_GOPP) ที่มีนโยบายการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียวคือ Morgan Stanley Investment Funds Global Opportunity Fund (กองทุนหลัก)
  4. กลุ่มการลงทุนทางเลือก กองทุนอสังหาริมทรัพย์ (TR_iPROP) มุ่งลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หน่วยทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) หน่วยของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่อยู่ในหมวดพัฒนาอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ (กองทุน Infra)

 

บลจ. พรินซิเพิล จำกัด มีระบบ Online Service ทาง Website และ Application สำหรับสมาชิก รวมทั้ง โปรแกรม Plan WISE Retire WELL ที่จะช่วยทำให้ทุกคนสามารถประมาณการเงินเกษียณของตัวเองได้ พร้อมกับคำนวณ Retirement Wellness score หรือ Replacement ratio ของสมาชิกให้ด้วย เพียงกรอกข้อมูลก็รู้ผลโดยทันทีว่า ณ วันเกษียณเราจะมีเงินเท่าไหร่ เพียงพอหรือไม่ แล้วถ้าเกิดไม่เพียงพอขึ้นมา ก็สามารถลองปรับเปลี่ยนจำนวนเงินสะสม รวมนโยบายการลงทุนต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าสมาชิกจะสามารถเกษียณอายุได้อย่างเหมาะสม และมีคุณภาพตามที่ตั้งใจไว้

 

สิทธิประโยชน์ ลดหย่อนภาษีได้

  • ข้อดีของการลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพคือ ผลตอบแทนจากการลงทุนจะได้รับยกเว้นภาษีทั้งหมดและที่สำคัญมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพคอยดูแลพอร์ตการลงทุนให้
  • การหักเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สามารถนำจำนวนเงินดังกล่าวไปลดหย่อนภาษีได้ตามจริง โดยรวมกับประกันชีวิตแบบบำนาญ กองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนเพื่อการออม (SSF) ได้ไม่เกิน 500,000 บาท (ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร)

ทั้งนี้สามารถสอบถามข้อมูล และรู้จักกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพิ่มเติมได้ที่ https://www.principal.th/th/provident-fund
หรือ  โทร. 026869595

Facebook: https://www.facebook.com/principalthailand
LINE: https://lin.ee/C6KFF6E หรือ @principalthailand
YouTube: https://www.youtube.com/c/PrincipalThailand

 

เกี่ยวกับพรินซิเพิล

ในประเทศไทย พรินซิเพิล ดำเนินธุรกิจภายใต้ชื่อ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด ให้บริการด้านการจัดการกองทุนครบวงจร ทั้งกองทุนรวม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนส่วนบุคคลเพื่อช่วยเหลือผู้คนให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินซึ่งในปัจจุบันบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด บริหารเงิน “กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พรินซิเพิล-สมดุลตามอายุ (Principal Target Date Retirement Fund)” กว่า 9,642.32 ล้านบาท จำนวนนายจ้าง 285 ราย (ข้อมูล ณ 31 ตุลาคม 2564)

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พรินซิเพิล-สมดุลตามอายุ (Principal Target Date Retirement Fund) ยังได้รับรางวัลชนะเลิศประเภท Pooled Fund ที่มีขนาดกองทุนต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาทติดต่อกัน 3 ปีซ้อน  ซึ่งสมาชิกยังสามารถเข้าตรวจสอบยอดเงิน สับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนต่างๆ ได้ทั้งจากเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่สะดวกและทันสมัยสามารถเข้าใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา
(ที่มา: โครงการประกวดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดีเด่น ครั้งที่ 8 ประจำปี 2562 ณ วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563)

คำเตือน:
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / ผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูลของกองทุนรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงาน / ของกองทุนรวมที่เปิดเผยไว้ในแหล่งต่างๆ หรือให้ขอข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ ก่อนการตัดสินใจลงทุน / ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต / เครื่องมือหรือโปรแกรมคำนวณ Plan WISE Retire WELL เป็นเพียงตัวเลขจำลองการลงทุน เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการกำหนดเป้าหมายเท่านั้น ไม่ใช่การรับประกันผลตอบแทนในอนาคต

Share